วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

L’OCCITANE

L’OCCITANE มุ่งมั่นหยุดยั้งการทดลองผลิตภัณฑ์ความงามกับสัตว์เสมอมาโดยร่วมมือกับสมาคมต่างๆอาทิ One Voice และ PETA ในปี 1997 L’OCCITANE เป็นหนึ่งในบริษัทอันดับต้นๆใน positive list ของสหภาพเพื่อการยุติการใช้สัตว์ทดลองแห่งอังกฤษ (British Union for the Abolition of Vivisection หรือ BUAV) เมื่อเดือนธันวาคมปี 2011 BUAV ตัดสินใจถอนการรับรองจากทุกบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีนเนื่องจากเจ้าหน้าที่จีนยังคงต้องการให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั้งหมดที่วางจำหน่ายในตลาดจีนผ่านการทดลองกับสัตว์เพราะมองว่าเป็นวิธีคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคที่ดีกว่าอย่างไรก็ตาม BUAV ได้ส่งจดหมายให้กำลังใจมาถึงเราเพราะทราบดีว่าเราพยายามต่อต้านการทดลองกับสัตว์มาโดยตลอด (ดูข้อมูลด้านล่างโปรดทราบว่าบริษัทของเรามิได้เป็นผู้ทำการทดลองเหล่านั้นในจีนการทดลองกับสัตว์ทดลองควบคุมเหล่านั้นดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการวิจัยของจีนและอนุมัติโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 

L'OCCITANE หมายถึง "ผู้หญิงจากเมือง Occitania" Occitania  เป็นชื่อเมืองเก่าแก่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ชื่อของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์โบราณในภาคใต้ของฝรั่งเศสทอดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปนถึงตะวันตกเฉียงเหนืออิตาลี  

Ecosse

            เริ่มแรกเราวอมร์มเตาที่ 160 องศาเซลเซียส แล้วก็เตรียมพิมพ์ บอลใช้พิมพ์ half-moon ตามสูตรเค้านะครับ (ถ้าไม่มีก็พิมพ์อะไรก็ได้) ทาเนยหนาหน่อย แล้วก็โรยอัลม่อนสไลด์ลงไปหัยทั่วแล้วแช่เย็น พักไว้ครับ 

* Almond cream *


ส่วนผสม


เนยจืด 200 กรัม (3/4 ถ้วย + 2 ชต.)

น้ำตาลทรายป่น 200 กรัม (2 ถ้วย)

ไข่ไก่ 200 กร้ม (4 ฟอง)

อัลม่อนป่น 200 กรัม (2 ¼ ถ้วย)

แป้งเค๊ก 60 กรัม (1/2 ถ้วย)



***ทำครึ่งสูตรครับ***


   วิธีทำ

-ตีเนยจนอ่อนตัวแล้วร่อนน้ำตาลป่นลงไปตีให้เข้ากัน ใส่ไข่หนึ่งลงไปที่ละฟอง แล้วตีต่อไปเรื่อยๆประมาณ 4-5 นาที จนเป็นครีม คล้ายครีมชีส
-ร่อนแป้งเค๊กและอัลมอนด์ป่นลงไปแล้วตะร่อมให้เข้ากัน พักไว้

* Chocolate batter *


ส่วนผสม

ไข่ขาว 150 กรัม (ไข่ขาว 5 ฟอง)

น้ำตาลทราย 100 กรัม (1/2 ถ้วย + 5 ชช.)

อัลม่อนป่น 150 กรัม (1 2/3 ถ้วย)

น้ำตาลทรายป่น 50 กรัม

โกโก้ 20 กรัม


***ทำครึ่งสูตรครับ***



วิธีทำ

-ใส่น้ำตาลลงไปในไข่ขาวส่วนหนึ่งในสี่ส่วน แล้วตีด้วยความเร็วปานกลางเป็นเวลา 30 วินาที แล้วเปลี่ยนเป็นความเร็วสูง ทะยอยใส่น้ำตาลส่วนที่เหลือของน้ำตาลตามลงไปจน Meringue ตั้งยอดแข็ง
-ร่อนส่วนผสมแป้ง(อัลม่อนป่น,น้ำตาลทรายป่น,โกโก้) รวมกันแล้ว นำไปตะล่อมในส่วนผสม Meringue จนเข้ากัน
-ใช้ไม้พายปาดเบทเทอร์ บาง ๆ ครอบคลุมทั้งพิมพ์ 
-เทครีมอัลมอนด์ลงไปปาดให้เรียบเสมอกัน อบนาน 33 นาที หรือจนครีมอัลม่อนสุก เอาออกจากเตาทิ้งให้เย็นในพิมพ์

* Topping : Nappage *

ส่วนผสม

แยมแอปริคอต 100 กรัม
Corn syrup 10 กรัม
น้ำร้อน 15 กรัม


***ทำครึ่งสูตรครับ***



วิธีทำ

-ต้มทุกอย่างรวมกันจนเดือดแล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น ถ้าเหนียวข้นเกินไป ก็เติมน้ำร้อนไม่ต้องหมดก็ได้ครับ แล้วทาลงบนผิวเค๊ก

เส็ดแว้ววววววววววววววว
รสชาติหลักๆเลยก็จะเป็นอัลม่อน ตัดด้วยช็อคโกแลทขมนิดๆ กำลังดี
ส่วนเนื้อเค๊กที่เป็นครีมอัลม่อนอบเส็ดแล้ว บอลแช่เย็นไว้คืนหนึ่ง
เนื้อฉ่ำอย่างกะเค๊กเนย เหมือนได้กินเค็กเนยรสอัลม่อน 





                              

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

รภไฟในฝรั่งเศส

ประเภทของรถไฟ
รถไฟในประเทศจะมีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
1.TGV (Train à Grande Vitesse) เป็นรถไฟความเร็วสูง ซึ่งความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 km/h เป็นรถไฟที่ราคาตั๋วแพงที่สุด และเป็นรถไฟที่ใช้วิ่งระยะไกล อีกทั้งยังมีโบกี้ขายอาหารไว้บริการอีกด้วย
2.TGV ระหว่างประเทศ ได้แก่
  •  Eurostar -> England
  •  THALYS -> Bruxelles, Colonge, Amsterdam
  •  TGV&ICE -> Germany
  •  TGV LYRIA -> Switzerland
  •  ELIPSOS -> Spain
  •  TGV France Italy -> Italy

3. INTERCITÉS เป็นการรวมตัวกันของ Corail, Lunéa, Téoz และ Intercité เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นรถไฟที่ใช้วิ่งในระยะระดับกลาง และวิ่งทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับรถไฟกลางคืนจะมีเบาะที่สามารถปรับให้นอนสบายกว่ารถไฟประเภทอื่นๆ หรือจะเลือกเป็นแบบเตียงนอนก็มี
4.TER (Transport Express Régional) เป็นรถไฟที่วิ่งภายในแคว้น   ดังนั้นราคาตั๋วและส่วนรถต่างๆ จึงแล้วแต่ว่าแคว้นนั้นๆจะมีการบริหารอย่างไร มีบัตรส่วนรถสำหรับคนในแคว้นนั้นหรือไม่
5.Transilien หรือ RER (réseaux express régional d’ile-de-France) เป็นรถไฟเหมือน TER แต่จะวิ่งเฉพาะในเขต Ile-de-France เท่านั้น

การซื้อตั๋วรถไฟ
การซื้อตั๋วรถไฟสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
1. เข้าไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ตามสถานีรถไฟต่างๆ
2. ซื้อจากตู้อัตโนมัติ ถ้าเป็นการซื้อตั๋วสำหรับ TGV หรือ Intercités จะซื้อได้จากตู้สีเหลือง ส่วน TER จะซื้อได้จากตู้สีน้ำเงิน
3. ซึ่งการซื้อตั๋วด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตในการซื้อ ซึ่งสามารถเลือกวิธีรับตั๋วได้ 3 แบบ คือ
  • E-billet หลังจากทำการซื้อตั๋วเสร็จสิ้นจะได้รับอีเมลล์ยืนยัน เมื่อจะไปขึ้นรถก็ให้ปริ้นอีเมลล์นี้ไปด้วย แต่ถ้าหากใครมีบัตร fidélité SNCF ที่รองรับระบบ e-billet ได้ก็ไม่จำเป็นต้องปริ้น แค่เอาบัตร  fidélité SNCF ติดตัวไปด้วย
  • Borne libre service หรือตู้อัตโนมัติสีเหลือง หลังจากทำการซื้อตั๋วเสร็จสิ้น สามารถไปถอนตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติได้ทันที และจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตที่ใช่จ่ายเงินในการถอนตั๋ว
  • ไปรับตั๋วกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ตามสถานีรถไฟ วิธีนี้ก็จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตที่ใช้จ่ายเงินในการขอรับตั๋วเช่นกัน



วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เที่ยวแม่น้ำแซน SEINE RIVER, PARIS ฝรั่งเศส

เมื่อมาเที่ยวถึงปารีส ฝรั่งเศสแล้ว อีกกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การนั่งเรือล่องแม่น้ำเซนค่าา ล่องไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศของเมืองปารีสตามสองฝั่งแม่น้ำ
แม่น้ำแซนเปรียบเสมือนแม่น้ำแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศส มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยที่โรมันยึดครองฝรั่งเศสเมื่อกว่าพันปีมาแล้ว มีความขลังแฝงในความโรแมนติกจนได้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์รักหวานชื่นของฮอลลีวูดอยู่หลายเรื่องเลยค่ะ
การล่องเรือลำใหญ่ไปตามแม่น้ำแซน ผ่านสะพานอันงดงามและชมสถานที่สำคัญๆ ชมวิวสวยๆ ดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือจะล่องเรือในยามค่ำคืนก็แจ่มนะค้า ชมวิวในยามราตรี แสงสีสันสวยงาม
แอบมาบอกเคล็ดลับ อยากได้ที่ดีๆ ต้องรีบไปก่อนเวลานะคะ แล้วรีบพุ่งไปที่นั่งด้านหลังสุด จะเป็นบริเวณที่ไม่มีหลังคา ไม่ล้อมด้วยกระจก ถือเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพสวยๆ เลยล่ะค่าา เริ่มต้นทริปได้หลายจุด แต่ที่ฮิตๆ คือบริเวณหอไอเฟลค่ะ

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทะเลสาบที่สำคัญในทวีปแอฟริกา


ทะเลสาบวิกตอเรีย(Lake Victoria) อยู่ในเขตติดต่อสามประเทศได้แก่ เคนยา แทนซาเนีย และยูกันดา ทะเลสาบวิกตอเรียนี้เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก มีเนื้อที่ประมาณ 68,800 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ทะเลสาบวิกตอเรียยังเป็นทะเลสาบที่มีอายุน้อยที่สุดในแถบนี้ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาเกรตริฟต์แวลลีย์ และเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญของทวีปแอฟริกา และทะเลสาบวิกตอเรียเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ โดยมีแม่น้ำคาเกราไหลเข้ามายังทะเลสาบ


ทะเลสาบแทนแกนยิกา(Lake Tanganyika) มีเนื้อที่ประมาณ 32,900 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญเป็นอันดับ 2 ในทวีปแอฟริการองจากทะเลสาบวิกตอเรีย นอกจากนี้ทะเลสาบแทนแกนยิกายังใหญ่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปแอฟริกา ที่สำคัญมันเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในทวีปแอฟริกาโดยจุดที่มีความลึกที่สุดมีความลึกมากกว่า 1,470 เมตร ทะเลสาบแทนแกนยิกานี้เกิดจากการทรุดตัวของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งตั้งอยู่ในแนวเกรตริฟต์แวลลีย์

ทะเลสาบชาด(Lake Chad) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีน้ำค่อนข้างตื้น เป็นแหล่งที่อยู่ที่สำคัญของนกหลายชนิด ในช่วงเวลาที่น้ำขึ้นสูงในฤดูฝน ทะเลสาบจะคลอบคลุมพื้นที่มากกว่า 20,800 ตารางกิโลเมตร แต่บางช่วงเวลาขนาดพื้นที่ของทะเลสาบชาดนี้อาจลดเหลือเพียง 10,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนที่ลึกที่สุดมีความลึกเพียงแค่ 8 เมตร

คลองสุเอซ (The Suez Canal) เป็นคลองที่มนุษย์สร้างขึ้นในประเทศอียิปต์ ระหว่าง Port Said (Būr Sa'īd) ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเมืองสุเอซ (Suez) บนฝั่งทะเลแดง มีความยาว 183 กิโลเมตร คลองสุเอซช่วยให้การเดินทางระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชียสั้นลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรือไม่ต้องเดินทางอ้อมทวีปแอฟริกา ก่อนการสร้างคลองนั้น ใช้การขนถ่ายสินค้าทางบกระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง คลองสุเอซแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเหนือและส่วนใต้ โดยมีทะเลสาบเกรทบิทเทอร์ (Great Bitter) เป็นจุดกลาง สินค้าที่เดินทางผ่านคลองนี้ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง







นมข้นหวาน ทำมาจากอะไร


โปรดสังเกต! นมข้นหวาน กับ ครีมเทียมหวาน ไม่เหมือนกันนะคะ แม้จะมีหน้าตาและรสชาติคล้ายๆ กัน โดยปรกติแล้ว นมข้นหวาน (Sweetened Condensed Milk) คือนมที่ระเหยน้ำออกบางส่วนแล้วเติมน้ำตาลลงไปเพื่อรักษาไม่ให้นมบูดเน่า โดยอาศัยหลักที่ว่าน้ำตาลจะทำให้มี Osmotic pressure สูง แบคทีเรียส่วนมากจะไม่สามารถเจริญ และขยายพันธุ์ในน้ำเชื่อมที่มีความเข้มข้นสูง ได้ปริมาณน้ำตาลในนมข้นหวานอยู่ในระหว่าง 40-50 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณของไขมันในนมข้นหวานมีตั้งแต่น้อยมาก (นมข้นหวานชนิดหางนม) จนถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณเนื้อนมมีตั้งแต่ 22-28 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณน้ำมีตั้งแต่ 24-27 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนักสุทธิของนมข้นหวานหนึ่งกระป๋องหนัก 397 กรัม ส่วนประกอบของนมข้นหวานแตกต่างกันในแต่ละบริษัท โดยทั่วไปแล้วนมข้นหวานที่มีปริมาณไขมันต่ำจะมีราคาถูกกว่านมที่มีปริมาณไขมันสูง ชนิดของไขมันก็ทำให้ราคานมข้นหวานแตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิต ถ้าต้นทุนการผลิตสูง ราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วย

ชนิดของนมข้นหวาน
นมข้นหวานได้มาจากกรรมวิธีที่ต่างกันอย่างน้อยสองวิธี วิธีหนึ่งคือใส่น้ำตาลลงในนมสดแล้วระเหยน้ำออกจนเป็นนมข้นหวาน อีกวิธีหนึ่งคือเอาส่วนประกอบต่าง ๆ ของนมซึ่งแยกกันอยู่ เช่น น้ำมันเนย นมผงและน้ำมารวมกัน เติมน้ำตาลลงไปแล้วระเหยน้ำส่วนที่เกินออกเสียบ้าง วิธีนี้เรียกว่า Recombined หรือ Reconstituted milk

นมข้นหวานมีหลายชนิดพวกที่ไม่มีไขมันเรียกว่า นมข้นหวานหางนมหรือ Sweetened Condensed Skim milk พวกที่มีไขมันเนย 8-9 เปอร์เซ็นต์ เรียก Sweetened Condensed Full Cream Milk นมข้นหวานที่ใช้น้ำมันพืชแทนน้ำมันเนยเรียก Sweetened Condensed Full Milk

ประโยชน์ของนมข้นหวาน
การใช้นมข้นหวานของคนไทยบางครั้งใช้เป็นของหวาน เช่น ใช้ขนมปังหรือข้าวหลามจิ้มนมข้นหวาน หรือใช้นมข้นหวานราดไปบนขนมซึ่งใส่น้ำแข็ง เมื่อจะใช้นมข้นหวานชงเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ชา หรืออื่น ๆ เราก็มักใส่นมข้นหวานลงไปมาก ๆ การบริโภคนมข้นหวานเป็นจำนวนมากนี้เนื่องจากผู้บริโภคส่วนมากเป็นผู้ที่ต้องใช้แรงงาน เมื่อกินของหวานเข้าไปก็รู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวแรง เพราะนมข้นหวานเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่ก็ไม่เป็นอาหารที่สมบูรณ์ (unbalance) นอกจากจะเติมนมผงหรือน้ำนมถั่วเหลืองลงไปในนมข้นหวาน

ประโยชน์ของนมข้นหวานนอกจากจะใช้บริโภคโดยตรงแล้ว ยังใช้ในการทำขนมอบต่าง ๆ ทำไอศกรีม ทำลูกกวาด ทำขนมพาย เอแครและน้ำสลัดชนิดครีม (Mayonnaise) ได้อีกด้วย

นมข้นหวาน 1 ช้อนชา (ตักแบบร้านกาแฟ) หนักโดยเฉลี่ย 15.7 กรัม มีคุณค่าทางอาหารดังนี้
พลังงาน 62.3 แคลอรี
โปรตีน 1.2 กรัม
วิตามิน เอ 111 หน่วยสากล
วิตามิน ดี 11.55 หน่วยสากล
วิตามิน บี 1 0.0774 มิลลิกรัม
นมชง 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ถ้าใช้นมข้นหวาน 3 ช้อนชา (ตักอย่างรวดเร็วแบบร้านกาแฟไม่ได้ตวง) จะมีคุณค่าดังนี้
พลังงาน 187 แคลอรี
โปรตีน 3.6 กรัม
วิตามิน เอ 333 หน่วยสากล
วิตามิน ดี 34.65 หน่วยสากล
วิตามิน บี 1 0.2 มิลลิกรัม
นมโคสด 1 แก้วจะมีคุณค่าดังนี้
พลังงาน 170 แคลอรี
โปรตีน 8.8 กรัม
วิตามิน เอ 160 หน่วยสากล
วิตามิน ดี 36 หน่วยสากล
วิตามิน บี 1 0.1 มิลลิกรัม


8 ร้านสเต็กเด็ดๆ


ห้องอาหารบุฟเฟต์นานาชาติบนโรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ มีหลากหลายเมนูสเต็กมากมายให้คุณได้เลือกลิ้มลอง เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 12:00-14:30,16:30-23:00 น.

ร้านอาหารในห้าง Siam Discovery มีหลากหลายเมนูอาหารนานาชาติและสเต็กให้เลือกทั้งของคาวและของหวาน เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น.

 ร้านสเต็กเจ้าอร่อยประจำตลาดสามย่าน มีหลายเมนูจานโตให้เลือกมากมาย ในราคาที่ไม่แพง จนคุณต้องตะลึง เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.30 น.


ร้านสเต็กสไตล์อเมริกัน มีหลายเมนูสเต็กหน้าตาดี อร่อย ในราคาประหยัด ให้คุณได้อิ่มท้อง เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 11.00 - 22.30 น.

ร้านสเต็ก บรรยากาศสบายๆ มีหลากหลายเมนูสเต็กทั้งแบบเป็นชุดและเป็นจานเดี่ยวไว้ให้คุณได้เลือกทาน ในราคาที่ไม่แพง เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 11:30-14:00,17:30-22:30 น.

ร้านสเต็ก ที่บริการสเต็กแบบบุฟเฟต์ และอีกหลายเมนูให้คุณได้เลือกอีกมากมาย จนทำให้คุณได้อิ่มจนพุงกางกันเลย เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 11.00-22.30 น.

ร้านอาหารแนวยุโรปสไตล์ฟิวชั่น เล็กๆน้อยๆ มีหลายเมนูสเต็ก และเมนูอร่อยๆมากมายให้คุณได้เลือกทาน เปิดบริการ ทุกวัน วันจันทร์-เสาร์ เวลา 18:00 - 02:00 น.

ร้านอาหารที่มีเมนูสเต็กหลากหลายให้เลือกทาน ในท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ชวนให้คุณนั่งกินลม ชมวิว เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 10:00-22:00 น.







แนะนำน้ำหอมแบรนด์ไทย โดยฝีมือคนไทย

ถ้าเอ่ยถึงน้ำหอมสาวๆหนุ่มๆหลายๆท่าน อาจจะนึกถึงน้ำหอมที่มีราคาแพง และหรูหรา และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลายๆคน เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ตัวของเราเอง และวันนี้ครับ ผมจะพาทุกท่านไปพบกับน้ำหอม แบรนด์ไทย โดยฝีมือคนไทย โดยได้แรงบันดาลใจจาก การทำน้ำปรุงในสมัยโบราณจากน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้กลิ่นพื้นบ้านที่หาได้ในเมืองไทย ผสมผสานความทันสมัยเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นกลิ่นน้ำหอมมากมาย ที่สำคัญ ราคายังถูกและคงความทนทานได้นานด้วยอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นอีกแบรนด์น้ำหอม ที่น่าจะครองใจใครหลายๆคนได้ไม่ยากนะครับ สำหรับตัวผู้เขียนนั้นได้รู้จักแบรนด์นี้ตอนที่ได้ไปเดินตลาดจตุจักรนะครับ ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบน้ำหอม และไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ โดยเน้นไปที่กลิ่นที่ชอบและเหมาะสมกับโอกาสเสียมากกว่า หากท่านใดสนใจก็ไปลองหาชมกันได้ โดยสอบถามสาขาของทาง Butterfly Thai Perfume ที่ค่อนข้างจะมีสาขาเยอะพอสมควรแล้ว ในขณะนี้

Butterfly Thai Perfume Agarwood & Benzoin (ไม้กฤษณาผสมกำยาน)
  
2. Butterfly Thai Perfume กลิ่น Cape lily & Pear (พลับพลึงและแพร์)






วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เอ็นทรานซ์ 4.0 หรือ เอ็นทรานซ์ 61

เป็นการสอบระบบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในปี 2561 ซึ่งจะเปิดสอบ “พร้อมกันทั่วประเทศ” เพียงครั้งเดียวโดยใช้ข้อสอบกลาง (หากมหาวิทยาลัยไหนจะจัดสอบเองต้องขออนุญาตก่อน) และน้องๆ สามารถนำคะแนนที่ได้มายื่นสมัครเลือกคณะที่ต้องการได้ 4 อันดับ มีสิทธิ์ในการยื่น คะแนนตามระบบเคลียริ่งเฮาส์ 2 ครั้ง

ซึ่งกระบวนการตามระบบคือ

  1. นักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 สอบปลายภาคเรียบร้อยแล้ว
  2. เปิดสอบ GAT PAT และ 9 วิชาสามัญ (สอบประมาณช่วงกลางมีนาคม 2561)
  3. นำคะแนนที่ได้ ไปยื่นเลือกคณะที่ต้องการ 4 อันดับ
  4. มหาวิทยาลัยคัดเลือกนักศึกษา ส่งชื่อเข้าระบบเคลียริ่ง #เคลียริ่งรอบที่1
  5. เปิดให้นักเรียนที่ไม่ติดคณะที่ต้องการ ในรอบแรก ยื่นคะแนนรอบที่2
  6. นักเรียนผ่านการคัดเลือก #เคลียริ่งรอบ2
ซึ่งระหว่างที่มีการสอบ ยื่นคะแนน และมหาวิทยาลัยทำการคัดเลือกอยู่นั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการจะไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเปิดสอบรับตรงใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อลดปัญหาเด็กต้องวิ่งสอบหลายสนาม รวมถึงลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
หากน้องๆ คือนักเรียนที่จะจบการศึกษาและเข้าสอบระบบเอนทรานซ์ 4.0 อย่าเพิ่งตกใจหรือหวั่นไหวกับระบบเอนทรานซ์ 4.0 มากไปเพราะ ระบบการสอบเปลี่ยน ไม่ได้แปลว่าการสอบจะลดน้อยลง แต่เป็นเพียง “การเลื่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกไป” จากเดิมต้องสอบช่วงเทอม2ของม. 6 เปลี่ยนเป็นสอบหลังจากจบม. 6

เมื่อระบบเปลี่ยน เราจะปรับตัวกันอย่างไรล่ะ?

ลองดู 6 สเต็ป แรกเริ่มรับมือเอนทรานซ์ 4.0 กันก่อนดีกว่าแล้วจะรู้ว่า “ยากเกินกว่าความพยายามของเรา ไม่มีจริง!”
  1. วางแผนการอ่านหนังสือให้ดี เพราะการสอบเอนทรานซ์ 4.0 ทำให้เรามีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น แต่อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะถ้านับวันเวลาตามจริง  เด็ก’61 จะมีเวลาเตรียมตัวสอบเข้า มหาวิทยาลัย นับจากนี้เพียง 1 ปีกว่าๆ เท่านั้น
  1. อัพเดทข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ หรือคลิ๊ก Ondemand เพราะเราจะเก็บทุกข่าวสารสำคัญของวงการศึกษาไทย มาฝากน้องๆ อย่างสม่ำเสมอ
  1. เรื่องเรียนอย่าทิ้ง ทบทวน ทำคะแนนสอบในรั้วโรงเรียน ซิวเกรดสวยๆ มาครอบครองไว้ก่อน
  1. อย่าลืมค้นหาสถิติคะแนน คณะที่ตัวเองชื่นชอบมาตั้งเป็นมาตรฐานให้ตัวเองไว้ จะได้รู้ว่าเราต้องทำคะแนนสอบมากเท่าไหร่ ถึงมีโอกาสได้เข้าเรียนคณะที่ใฝ่ฝัน ในมหาวิทยาลัยที่ต้องการ
  1. ระบบเปลี่ยนไปแต่การสอบยังมีเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความพยายามของเราต้องx2 เพราะการสอบเอนทรานซ์ 4.0 “สอบครั้งเดียว” ไม่มีโอกาสแก้ตัวนะจ๊ะ!
  1. หมั่นหาสนามจำลอง เช่น การสอบ Mock Exam สนามสอบจำลอง ที่ให้น้องๆ ได้ทดลอง ทำข้อสอบระดับมาตรฐานภายในเวลาจำกัดได้คะแนนผลสอบจริง แถมได้สัมผัสบรรยากาศการสอบที่เหมือนการสอบจริงสุดๆ ฯลฯ การทดลองสอบบ่อยครั้ง จะช่วยให้น้องๆ ได้ทบทวนความรู้วัดความสามารถของตัวเอง และเป็นการฝึกใจให้พร้อมรับกับความกดดันขณะสอบจริงอีกด้วย

เขาดิน

ส่องสัตว์ ที่เขาดิน หรือ สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย


เที่ยวเขาดินกัน... เวลาเจอคำชวนแบบนี้เมื่อก่อนจะมีความรู้สึกตื่นเต้นตรงที่จะได้เอากล้องไปเที่ยวยิงภาพสัตว์ต่างๆ ในสวนสัตว์ ก็เท่านั้นเองล่ะครับ จนกระทั่งในครอบครัวมีสมาชิกตัวน้อยเพิ่มขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่า เขาดิน ช่างเป็นสถานที่ ที่น่าสนใจมากๆ และ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสำหรับเจ้าตัวเล็กและคนในครอบครัว ที่นี่คือแหล่งความรู้ชั้นยอดจริงๆ 

ซึ่่งหากต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว และ ไม่อยากไปไกลจากกรุงเทพฯ แบบไปเที่ยวเช้าและกลับเย็นได้ สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดินวนา แห่งนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลย
ทางเข้า

มีโชว์แมวน้ำ

ประวัติเกี่ยวกับสวนสัตว์ดุสิต

สวนสัตว์ดุสิต แต่เดิมเรียกว่า สวนดุสิต หรือ เขาดินวนา พระบาทสมเด็ทพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2438 หลังจากที่พระองค์ทอดพระเนตรกิจการสวนพฤกษชาติของต่างประเทศ และ พบว่าสวนพฤกษชาติเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ความเพลิดเพลินและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน จึงมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้นในประเทศไทยบ้าง โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในพื้นที่ราบทางด้านทิศตะวันออกติดคลองเปรมประชากร (ถนนพระราม 5) ด้วยการขุดสระน้ำใหญ่ประกอบคูคลองระบายน้ำ และถนน แล้วนำดินขึ้นมาเป็นเนเขาเกาะกลางน้ำเรียกว่า "เขาดิน" และรอบๆ เขาดินนั้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกลงพรรณไม้นานาชนิด สร้างขึ้นเป็นสวนพฤกษชาติ สำหรับส่วนพระองค์เรียกว่า "วนา" รวมอาณาเขตส่วนนี้ทรงโปรดเรียกว่า "เขาดินวนา" โดยในขั้นต้นพระองค์ให้สร้างขึ้นสำหรับเป็นที่ประพาส และทรงพระเกษมสำราญส่วนพระองค์ และ ข้าราชบริภารฝ่ายในก่อน ดังนั้น สวนดุสิต หรือ เขาดินวนา จึงเป็นส่วนหนึ่งในเขตพระราชฐานพระราชวังดุสิต

ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริที่จะทำนุบำรุงสวนแห่งนี้ให้กว้างขวาง และดีกว่าที่เป็นอยู่ และ เปิดให้ประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจด้วย

ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 แล้ว คณะรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามจึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานสวนดุสิต ให้ดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ในเวลานั้น พระองค์เจ้าทิพอาภาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้พระราชทานอนุมัติในนามของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ให้เทศบาลกรุงเทพรับบริเวณสวนดุสิต หรือ เขาดินวนา สนามเสือป่า และ สวนอัมพร มาจัดเป็นสวนสาธารณะได้

จากนั้นทางเทศบาลกรุงเทพ ได้จัดการย้ายกวางดาว และ สัตว์ชนิดต่างๆ มาจากสวนอัมพร และ ย้ายสัตว์บางชนิด เช่น จระเข้ ลิง จากสวนสราญรมย์ มาไว้ที่เขาดินวนา และได้ขอให้ทางสำนักพระราชวังส่งช้างหลวง มาให้พระชาชนได้ชมในวันอาทิตย์ และ เมื่อปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่างๆ เรียบร้อยแล้วทางเทศบาลนครกรุงเทพจึงเปิดสวนสัตว์ดุสิตให้ประชาชนเที่ยวชม และ พักผ่อนหย่อนใจได้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2481 และให้เรียกสวนดุสิตนี้ว่า "สวนสัตว์ดุสิต" ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสัตว์แห่งแรกในประเทศไทย