วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559




เที่ยว 12 จังหวัด กับโครงการ เมืองต้องห้าม…พลาด


ชวนคนไทยเที่ยว 12 เมืองห้ามพลาด


ทั้ง 12 จังหวัด น่าเที่ยวที่แอบซ่อนอยู่ได้แก่ ลำปาง เพชรบูรณ์ น่าน บุรีรัมย์ เลย สมุทรสงคราม ราชบุรีตราด จันทบุรี ตรัง ชุมพร และนครศรีธรรมราช
โดยภาคกลาง ต้องยกให้เมืองสายน้ำสามเวลา จ.สมุทรสงคราม ที่มีจุดเด่นเป็นตลาดน้ำ ที่มีให้เลือกชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง เช่น ตลาดน้ำท่าคา ตลาดน้ำอัมพวา ชุมชนบ้านบางพลับ บทตอนชีวิตชาวสวนที่เรียนได้ไม่รู้จบ และตลาดเก่าบางนกแขวก ปลุกความร่าเริงของตลาดโบราณให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง (ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม : เมืองสายน้ำสามเวลา และราชบุรี : ชุมชนคนอาร์ต)
สมุทรสงครามรูปภาพจาก www.tripteaw.com
ไปที่ ภาคเหนือ ในจังหวัดลำปางที่ได้ชื่อว่า เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา ต่อให้เราจะก้าวเร็วแค่ไหน เมื่อมาถึงลำปางคล้ายจะกลายเป็นคนเดินช้าที่อยากจะค่อย ๆ ซึมซับและสัมผัสความสวยงามของเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เช่น ถนนสายวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชุมชนคนลำปางอย่างใกล้ชิด และวัดพระธาตุลำปางหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง (ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง : เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เพชรบูรณ์ : ภูดอกไม้สายหมอก และ น่าน : กระซิบรักเสมอดาว )
ลำปางรูปภาพจาก www.chonburiindex.com
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องที่เลย เย็นสุด…สุขที่เลย จ.เลย นิยามใหม่ของภาคอีสานที่เล่าขานเรื่องราวเย็นสบายกลางทุ่งดอกไม้สีชมพูบนภูสูง มีภูให้เลือกขึ้นไปชมความงดงามมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติภูเรือภูลมโล ภูกระดึง และภูป่าเปาะ รวมทั้งพระธาตุศรีสองรัก พยานแห่งมิตรภาพระหว่างไทย-ลาวผูกศรัทธาชาวด่านซ้ายไว้เป็นหนึ่งเดียว (ภาคอีสาน 2 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ : เมืองปราสาทสองยุค และเลย : เย็นสุด…สุขที่เลย)
เลยรูปภาพจาก www.hotelsthailand.com
 ภาคตะวันออก เมืองเกาะในฝัน ที่ จ.ตราด มีเกาะน้อยใหญ่ให้เลือกพักผ่อน ชมความงามของทะเล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เกาะที่มีเรื่องราวความยิ่งใหญ่ในตัวเอง และเป็นสวรรค์ของคนรักท้องทะเลอย่างแท้จริง เกาะหมาก เกาะกูด หรือจะเป็นสวนผลไม้ ให้เลือกอิ่มอร่อยกันไม่อั้นกับบุฟเฟ่ต์ผลไม้สดๆ จากสวน (ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ตราด : เมืองเกาะในฝัน และจันทบุรี : สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้)
ตราดรูปภาพจาก www.eastosm.com
 ปิดท้ายที่ภาคให้ ภาคใต้ ยุทธจักรความอร่อย ของ จ.ตรัง ที่พบได้ตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่อยู่คู่ตรังมายาวนาน กับตำนาน “เมืองแห่งคนช่างกิน” วิถีวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น หมูย่างหนังกรอบ ติ่มซำคำโต ขนมเค้กมีรูเนื้อนุ่มลิ้น และเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองจานเด็ด ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดลิ้มลองอีกมากมาย (ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ตรัง : ยุทธจักรความอร่อย ชุมพร : หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ และนครศรีธรรมราช : นครสองธรรม)
หมูย่างเมืองตรัง

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มูแลงรูจ

Moulin Rouge!

มูแลงรูจ! (อังกฤษMoulin Rouge!) เป็นภาพยนตร์เพลงเรื่องที่สามในภาพยนตร์ชุดไตรภาค "The Red Curtain Trilogy" ของบาซ เลอห์มานน์ ออกฉายในปี พ.ศ. 2544 เขียนบทโดยเลอห์มานน์ ดัดแปลงจากเรื่องของออร์ฟูและออริดิซี ในตำนานเทพปกรณัมกรีก และจากอุปรากรเรื่อง La Traviata ของจูเซปเป แวร์ดี
ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 8 สาขา และได้รับรางวัลสองสาขา จากการออกแบบเครื่องแต่งกาย และการออกแบบฉาก โดยแคเทอรีน มาร์ติน (ภรรยาของเลอห์มานน์) และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ภาพยนตร์ตลกและเพลง) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (นิโคล คิดแมน) และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลบาฟตา สาขานักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม (จิม บรอดเบนท์) 

เรื่องย่อ




                                                                                                                                                                                                                                                เรื่องราวในภาพยนตร์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1899 ที่โรงละครมูแลงรูจ ย่านมองมาร์ต ในกรุงปารีส ซึ่งมีจุดเด่นที่อาคารโรงละครเป็นรูปกังหันลม (ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า มูแลงส์)
กวีและนักเขียนหน้าใหม่ชาวอังกฤษชื่อ คริสเตียน (รับบทโดย แมคเกรเกอร์) ได้รับการชักชวนจากตูลูส-โลแตร็ก (รับบทโดย เลกูซิอาโน) ให้เขียนบทละครเพลงเรื่องใหม่ให้กับคณะคาบาเรต์ของแฮโรลด์ ซิดเลอร์ (รับบทโดย บรอดเบนท์) ชื่อเรื่อง "Spectacular Spectacular" เขามีความรักกับ ซาทีน (รับบทโดย คิดแมน) นางเอกระบำแคนแคนและหญิงงามเมืองในคณะของซิดเลอร์ ละครเพลงเรื่องใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากท่านดยุกแห่งมอนร็อธ (รับบทโดย ร็อกซ์เบิร์ก) โดยมีเงื่อนไขว่าซาทีนจะต้องตกเป็นนางบำเรอของท่านดยุกก่อนจะเปิดการแสดงรอบแรก
ละครเพลง Spectacular Spectacular ที่ซ้อนอยู่ในเรื่อง เป็นละครเพลงแบบโบฮีเมีย คือมีเนื้อเรื่องในอุดมคติเกี่ยวกับความจริง ความสวยงามอิสรภาพ และความรัก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดีย [4] เกี่ยวกับนางบำเรอของมหาราชาอินเดีย ที่ลักลอบมีความรักกับนักเล่นซีตาร์พเนจร เปรียบเทียบกับความรักของซาทีน กับคริสเตียน และดยุก
ก่อนการแสดงรอบแรกจะเริ่มขึ้น ดยุกพบความจริงว่า คริสเตียนกับซาทีนลักลอบมีความสัมพันธ์กันตลอดมา จึงยื่นคำขาดกับซิดเลอร์ ให้กำจัดคริสเตียนให้พ้นทาง มิฉะนั้นจะให้ลูกสมุนสังหารคริสเตียนเสีย ซาทีนจึงบอกกับคริสเตียนว่า เธอเลือกที่จะแต่งงานกับดยุก เช่นเดียวกับในเรื่อง Spectacular Spectacular ที่นางสนมเลือกอภิเษกกับมหาราชา แทนที่จะเป็นนักเล่นซีตาร์ ทั้งนี้เพื่อผลักไสให้เขาเดินออกไปจากชีวิตของเธอ และไม่ถูกสมุนของดยุกสังหาร
ด้วยความคับแค้นใจ คริสเตียนกลับมาขึ้นบนเวทีระหว่างการแสดงรอบแรก ในชุดแต่งกายของนักเล่นซีตาร์ เขาประกาศตัดสัมพันธ์กับซาทีนต่อหน้าผู้ชมทั้งโรงละคร แล้วเดินจากไป แต่เมื่อซาทีนร้องเพลง "Come What May" เพลงที่ทั้งคู่เคยตกลงกันว่าจะใช้แสดงความรักต่อกัน ในตอนท้ายของการแสดง ทั้งคริสเตียนและซาทีนก็รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย
การแสดงละครรอบแรกสำเร็จลงด้วยดี ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากผู้ชม แต่ซาทีนก็เสียชีวิตลงหลังการแสดงจบ จากอาการป่วยเป็นวัณโรคเรื้อรัง ในอ้อมกอดของคริสเตียน ก่อนตายเธอให้เขาสัญญาว่า จะเขียนเรื่องราวความรักระหว่างคนทั้งคู่ เกี่ยวกับ "สิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้เรียนรู้ คือการได้รัก และถูกรักตอบ" [5]
หนึ่งปีหลังการเสียชีวิตของซาทีน คริสเตียนได้เริ่มเขียนบทละคร พรรณนาความรักของเขากับซาทีน ชื่อเรื่องว่า "มูแลงรูจ"

นักแสดง

ดนตรีประกอบภาพยนตร์

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ในเรื่องมีความโดดเด่นที่การนำเพลงในสมัยนิยม ทั้งทำนองเพลง หรือคำร้องบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพลงป็อบ ร็อก ริทึมแอนด์บลู มาสอดแทรกนำเสนอในเนื้อหาของภาพยนตร์ ได้แก่
ในภาพยนตร์มีเพลงที่แต่งขึ้นใหม่หนึ่งเพลง คือเพลง "Come What May" แต่งโดย David Baerwald (เป็นคนละเพลงกับเพลง Come What May ที่ขับร้องในปี 1952 โดย แพตตี เพจ) ขับร้องโดยยวน แมคเกรเกอร์ และนิโคล คิดแมน เป็นเพลงที่เดิมแต่งขึ้นสำหรับใช้ในภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าของเลอห์แมนน์ คือเรื่อง โรมิโอ + จูเลียต แต่ได้นำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้แทน [6] โดยใช้เป็นเพลงสำหรับลักลอบแสดงความรักต่อกันระหว่างคริสเตียนและซาทีนในเรื่อง

หมามุ่ย สรรพคุณและประโยชน์ของหมามุ่ย 25 ข้อ !


หมามุ่ย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมามุ่ย สรรพคุณ
    เมล็ดหมามุ่ย มีสารแอลโดปา (L-Dopa) ซึ่งเป็นสารที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อระบบสืบพันธุ์ และยังเป็นสารสื่อประสาทซึ่งมีส่วนช่วยรักษาโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย แต่ต้องใช้ในรูปแบบที่ผ่านการสกัดมายาเม็ดเรียบร้อยแล้ว เพราะร่างกายไม่สามารถรับสารในรูปของเมล็ดสดหรือแปรรูปได้
หมอยาแผนโบราณมีการนำหมามุ่ยมาใช้อย่างหลากหลาย โดยนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ ราก ใบ ฝัก เมล็ด โดนเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเมล็ดที่ถือว่า เป็นพระเอกของเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ !
ขนหมามุ่ยหากถูกผิวหนังจะทำให้มีอาการคะคายเคือง คัน ปวดแสบปวดร้อน บวมแดงเป็นอย่างมาก สำหรับวิธีการรักษาให้รีบกำจักขนพิษออกจากบริเวณที่สัมผัส โดยใช้เทียนไขลนไฟให้อ่อนตัว หรือจะใช้ข้าวเหนียวนำมาคลึงจนเนื้อข้าวเหนียวกลืนกัน แล้วนำมาคลึงบริเวณที่สัมผัสขนหลายครั้ง ๆจนหมด แต่หากยังมีอาการแดงแสบร้อนหรือคันอยู่ให้ใช้โลชั่นคาลาไมน์มาทา หรือจะใช้สเตียรอยด์พร้อมกับรับประทานยาแก้แพ้ก็ได้ อาการก็จะดีขึ้น

สรรพคุณของหมามุ่ย

  1. หมามุ่ยประโยชน์ของหมามุ่ย ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ไม่เหนื่อยง่าย
  2. ช่วยทำร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพิ่มความกระฉับกระเฉง
  3. ช่วยทำให้นอนหลับสบาย จิตใจเบิกบานแจ่มใส
  4. ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีมากยิ่งขึ้น
  5. ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำอสุจิ และช่วยปรับคุณภาพของน้ำเชื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น
  6. ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ (เพิ่มโอกาสการมีลูกได้มากขึ้น)
  7. ช่วยทำให้คู่รักมีความสุขและช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดีมากยิ่งขึ้น
  8. ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ เพิ่มความถี่ของการผสมพันธุ์ให้มากยิ่งขึ้นเป็น 10 เท่า (มีการทดลองในสัตว์)
  9. หมามุ่ย สรรพคุณช่วยแก้ปัญหาอวัยวะเพศแข็งตัวช้า
  10. ช่วยยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ แก้ปัญหาการหลั่งเร็วได้
  11. ช่วยเพิ่มปริมาณของฮอร์โมนเพศ
  12. ประโยชน์หมามุ่ย ช่วยทำให้หน้าอกเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
  13. ประโยชน์ของหมามุ่ยช่วยทำให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
  14. มีส่วนช่วยให้ช่องคลอดกระชับมากยิ่งขึ้น
  15. สรรพคุณเมล็ดหมามุ่ย ช่วยรักษาภาวะการมีบุตรยากทั้งชายและหญิง
  16. หมามุ่ยสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคพาร์กินสัน
  17. ช่วยผ่อนคลายความเครียด
  18. ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและมวลของกล้ามเนื้อ
  19. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช้ำใน ด้วยการใช้รากหมามุ่ย 1 กิโลกรัม เมล็ดผักกาด 5 ขีด และเมล็ดผักชี 3 ขีด นำมาตำรวมกันจนเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้งป่าหมักทิ้งไว้ 3 เดือน แล้วนำมาใช้กินก่อนนอน (ขนาดเท่าผลมะพวง)
  20. ช่วยแก้อาการไอ ด้วยการใช้รากหมามุ่ยนำมาต้มกินแก้อาการ (ราก)
  21. หมามุ้ยใช้แก้อาการคัน (ราก)
  22. เมล็ดหมามุ่ย สรรพคุณใช้เป็นยาฝาดสมาน (เมล็ด)
  23. ใช้ถอนพิษ ล้างพิษ (ราก)
  24. ช่วยแก้พิษแมงป่องกันได้ ด้วยการใช้เมล็ดตำเป็นผงแล้วนำมาพอกบริเวณที่โดนต่อย (เมล็ด)
  25. หมามุ่ยประโยชน์ในปัจจุบันมีการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปของผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารในรูปของแคปซูล หมามุ่ยสกัด กาแฟหมามุ่ย เป็นต้น



                รถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทรานไซบีเรีย

ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย (TSRรัสเซียТранссибирская магистраль Transsibirskaya Magistral') เป็นสายรถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศรัสเซีย ช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างกรุงมอสโก ไปยังเขตตะวันออกไกลและทะเลญี่ปุ่น[1] มีสายย่อยเชื่อมต่อไปยังมองโกเลีย จีน และเกาหลีเหนือ ปัจจุบันเชื่อมต่อระหว่างกรุงมอสโกกับเมืองวลาดีวอสตอค ตั้งแต่ ค.ศ. 1916 และกำลังวางแผนสร้างส่วนต่อขยาย

เส้นทาง

  รถไฟส่วนใหญ่ จะจอดตามสถานีรายทางค่อนข้างน้อย เพื่อให้การเดินทางเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การเดินทางต้องใช้เวลา 6-7 วันเป็นอย่างน้อย

เมืองสำคัญที่ทางรถไฟผ่านนั้น ได้แก่