วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

                    อันดับ 10 ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก 

                    ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองไปเยือน

หมู่เกาะมัลดีฟส์ ประเทศมัลดีฟส์ (Maldives)
เกาะที่ใครๆ ต่างก็เรียกว่า “สวรรค์” ที่มีทั้งหาดทรายละเอียดสีขาว ท้องน้ำสีฟ้าอ่อนและคราม และน้ำทะเลใสอย่างกับคริสตัล ทำให้แลเห็นปะการังสีเทอร์ควอยส์ (Turquoise) ฝูงปลา และสิ่งมีชีวิตสีสรรต่างๆ ใต้น้ำ เนื่องจากมัลดีฟส์ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยถึง 1,190 เกาะ ซึ่งมีอาณาเขตกว้างถึง 90,000 ตร.กม. ทำให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับความงามโดยมีสามารถพื้นที่เป็นส่วนตัวได้

2. โบรา โบรา ประเทศเฟรนซ์ โพลินีเซีย (Bora Bora, French Polynesia)
โบรา โบรา ประเทศเฟรนซ์ โพลินีเซีย (Bora Bora, French Polynesia)
แค่เอ่ยชื่อโพลินีเซีย ภาพของดินแดนสวรรค์ที่สวยงามแปลกตาแสงแดดเจิดจ้า หาดทรายละเอียดนุ่ม และน้ำทะเลสีเทอควอยซ์ที่เหมือนมาจากนวนิยายเรื่องโรบินสัน ครูโซก็ผุดขึ้นมามากมาย โบรา โบราเป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะบนมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งก็คือประเทศโพลินีเซียนั่นเอง

3. *ลา ดีก ประเทศเซเชลส์ *(La Digue, Seychelles)
ลา ดีก ประเทศเซเชลส์ (La Digue, Seychelles)
หมู่เกาะเซเชลส์เป็นสวรรค์ของใครหลายๆ คน ที่ดึงดูดคู่ฮันนีมูนอย่างเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคทมาสู่ดินแดนมหัศจรรย์เขตร้อนแห่งนี้ เกาะต่างๆ ของที่นี่ตั้งแต่เกาะเบิร์ด (Bird Island) ไปจนถึงเกาะพราสลิน (Praslin) ล้วนมีชายหาดระดับแนวหน้าทั้งสิ้น แต่เราเลือกเกาะลาดีกกับหาดแอนซี ซอร์ส ดาร์เจนท์ (Anse Source d'Argent) ซึ่งเป็นหาดในฝันของคู่แต่งงานทั้งหลาย

4.* อารูบา ประเทศดัชต์แอนทิลลิส * (Aruba, Dutch Antilles)
อารูบา ประเทศดัชต์แอนทิลลิส  (Aruba, Dutch Antilles)
ถ้าคุณต้องการชายหาดสวยๆ ที่เหมือนทะลุมาจากโบรชัวร์สุดแจ่มเงาวับล่ะก็ คุณมาถูกที่แล้ว ชายหาดต่างๆ ของอารูบารายเรียงอยู่ตามชายฝั่งของเวเนซูเอล่ารอให้คุณเลือกไปชม ไม่ว่าจะเป็นชายหาดอีเกิล (Eagle) แมนเกล ฮาลโต (Mangel Halto) หรือซานโต ลาโก (Santo Largo)

ปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ (Palawan, Philippines)
ชื่อประเทศฟิลิปปินส์อาจไม่ผุดขึ้นมาบ่อยเหมือนประเทศไทยหรือมาเลเซียเมื่อเรานึกถึงชายหาดสวยๆ แต่มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าหากคุณต้องการหลบหนีความวุ่นวายจริงๆ ล่ะก้อ หมู่เกาะบาคิท (Bacuit Archipelago) ถือเป็นสรรค์ของนักท่องเที่ยวชายหาดเลยก็ว่าได้

เกาะพีพี ประเทศไทย
ยังจำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีชกันได้ไหม? แม้ทุกวันนี้คุณอาจจะต้องพยายามมากขึ้นอีกหน่อยเพื่อมองหาดินแดนสวรรค์บนชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยที่บรรยายอยู่ในนวนิยายของสาวกแบ็คแพ็คเกอร์ยุค 90s แต่เกาะพีพีก็ยังคงเป็นอัญมณีเม็ดงามที่ส่องประกายเจิดจ้า

7. *หาดนาวาจิโอ เกาะซาคีนโตส ประเทศกรีซ *(Navagio, Zakynthos, Greece)
หาดนาวาจิโอ เกาะซาคีนโตส ประเทศกรีซ (Navagio, Zakynthos, Greece)
ณ ฐานด้านล่างของหน้าผาสีขาวสูงชันที่ซ่อนตัวอยู่บนเกาะซาคีนโตสของกรีซ ห้อมล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าแจ่มที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นมา หาดนาวาจิโอมีเซอร์ไพรส์รอคุณอยู่ นั่นคือ ซากเรือเก่าที่ผู้ลักลอบขนส่งสินค้าทิ้งไว้ขณะหลบหนีเจ้าหน้าที่

8. *หาดลานิไก ฮาวาย *(Lanikai Beach, Hawaii) ประเทศอเมริกา
หาดลานิไก ฮาวาย (Lanikai Beach, Hawaii)
เหล่าผู้ที่หลงใหลในเกลียวคลื่นและคลื่นยักษ์สูง 50 ฟุต ต่างมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางเหนือของเกาะโอวาฮู (Oahu) แต่ฮาวายยังดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบชายหาดมาที่หาดเล็กๆ อย่างหาดลานิไกอีกด้วย ลองออกไปพายเรือเล่นดู ไม่แน่คุณอาจได้แชร์วิวสวยๆ กับเจ้าเต่าทะเลก็เป็นได้

9.* หาดไวท์เฮเวน หมู่เกาะไวท์ซันเดย์ ประเทศออสเตรเลีย * (Whitehaven, Whitsunday Islands, Australia)
หาดไวท์เฮเวน หมู่เกาะไวท์ซันเดย์ ประเทศออสเตรเลีย  (Whitehaven, Whitsunday Islands, Australia)
ว้าว! ได้รับการโหวตอยู่หลายครั้งว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศออสเตรเลีย หาดไวท์เฮเวนแห่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบกว่าหาดบอนไดในช่วงที่มีการเล่นเซิร์ฟ เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีทรายขาวกับทะเลสีฟ้าใสบนหมู่เกาะไวท์ซันเดย์ที่ห้อมล้อมด้วยป่าฝน ซึ่งอยู่บริเวณด้านชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์

10. *เฟทิเย ประเทศตุรกี *(Fethiye, Turkey)
เฟทิเย ประเทศตุรกี (Fethiye, Turkey)
เมืองเฟทิเยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมีชายหาดต่างๆ ที่สวยงามให้เลือกชมอย่างโอลูดีนิซ (Oludeniz) ที่มีทะเลสาบสีฟ้า เคเลเบคเลอร์ วาดิซิ (Kelebekler Vadisi) กับแหล่งผีเสื้อ แนวต้นสนสวยๆ ที่หาดคิดรัค (Kidrak) และจุดชมพระอาทิตย์อัสดงที่หาดคาลิส (Calis) เป็นต้น

                       หาดเฟทิเย  ประเทศตุรกี

11601040_ml
เรียกได้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งชายหาดท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดในประเทศตุรกีในช่วงเวลานี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาฤดูร้อนนักท่องเที่ยวมากมายนั้นมักจะพากันมาเล่นน้ำทะเลที่เย็น แถมนอกจากการชื่นชมน้ำทะเลสีฟ้าสดใสสามารถมองเห็นพื้นทรายสีขาวอันสวยงาม เสน่ห์ของเมืองเฟทิเยนั้นยังมีอีกหลายอย่างในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กับหาดเฟทิเย แน่นอนครับใครที่มาเที่ยวหาดเฟทิเย ต้องอย่าลืมมาไหว้สุสานพระเจ้าอามินตัสอันงดงามซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 350 ปีก่อนคริสตศักราชอีกด้วย ดังนั้นหลังจากเล่นน้ำให้ชื่นใจ ก็อย่าลืมแวะไปชมความสวยงามของศิลปะอันเก่าแก่นี้กันด้วยนะครับสำหรับหาดเฟทิเย ประเทศตุรกี
หากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหาดเฟทิเยแน่นอนเขามีบริการให้เช่าเรือยอชท์สุดหรูหราที่คุณจะสามารถเห็นความสวยงามมากจากชายฝั่งทะเลที่สวยงาม แต่ยังมีวิธีอื่น ๆอีกมากมายเพื่อให้คุณได้ดูทัศนียภาพที่ดีที่สุด จากท่าเรือเฟทิเยมีเสนอจำนวนล่องเรือพร้อมในราคาที่น่าพอใจที่จะพาคุณชมแหล่งธรรมชาติที่สวยงามจะเต็มวันหรือครึ่งวันล่องเรือนิยมมากที่สุดคือ 12 ล่องเรือเกาะ การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันและรวมถึงอาหารกลางวัน มันต้องใช้เวลาในฉากเช่นเดียวกับจำนวนคน มีบริการหยุดสำหรับว่ายน้ำและดำน้ำตื้นดูปะการัง มันเป็นช่วงเวลาวันเดินทางที่แสนสนุกที่สุดสำหรับทั้งครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นชาดหาดทะเลที่ครบ ไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลใส หาดทรายสวย ดำน้ำดูปะการัง เรือยอชท์สุดหรูหรา หรือ ชมความสวยงามสุสานพระเจ้าอามินตัสอันงดงามซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 350 ปีก่อนคริสตศักราช หาดเฟทิเย, ประเทศตุรกี การันตีความสวยงาม

                      ข้าวไรน์ (Rye) Secale cereale L.

วงศ์ GRAMINAE, POACEAE
ถิ่นกำเนิดและการแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์ 
บริเวณเทือกเขาของประเทศอัฟกานิสถาน อิหร่าน และตะวันออกกลาง เมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว แต่เดิมถูกจัดเป็นวัชพืชในนาข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ต่อมามีการนำไปปลูกเพื่อบริโภค จากนั้นมีการแพร่กระจายมายังประเทศอิรักและตุรกี ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา รัสเซีย ทวีปยุโรปตอนกลาง และทางตะวันตก ซึ่งเจริญเติบโตได้ในเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่น มีความทนทานต่อสภาพอากาศแห้งแล้งและน้ำค้างแข็ง สามารถเจริญเติบโตได้จนถึงเขตเส้นรุ้งที่ 60 องศาเหนือ และบนพื้นที่สูงในเขตอากาศแบบร้อนชื้นและเขตกึ่งร้อน เช่น ในพื้นที่ของทวีปแอฟริกาทางภาคใต้และภาคตะวันออก (Darwinkel, 1996; Levetin and McMahon, 2003)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 
สปริงไรน์(spring rye) เป็นพืชปีเดียว ส่วนวินเทอร์ไรน์(winter rye) เป็นพืชสองปี ลำต้นอ่อนนุ่มไม่มีเนื้อไม้ แตกกอเป็นกระจุก ลำต้นสูง 1-3 เมตร สีเขียวปนฟ้า ระบบรากแผ่กระจายได้ดีมีความลึก 1-2 เมตร กอของลำต้นตั้งตรงลำต้นผอมเรียว มี 6-12 ปล้องขึ้นกับสายพันธุ์ บริเวณข้อของลำต้นมีลักษณะตัน ส่วนบริเวณปล้องมีลักษณะกลวง ข้อบริเวณโคนลำต้นมีการแตกหน่อใหม่ กาบใบยาวและห่อหุ้มลำต้นแบบหลวมๆ เขี้ยวใบมีขนาดเล็กและสั้น ลิ้นใบเป็นจักแหลม แผ่นใบรูปแถบผสมรูปใบหอก กว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ช่อดอกเป็นแบบช่อเชิงลด ยาว 7-15 เซนติเมตร มีลักษณะโค้ง มีหาง ช่อดอกย่อยติดอยู่บนแกนกลางช่อดอกแบบสลับ ดอกย่อยไม่มีก้านดอกย่อย กาบช่อย่อยยาว 1 เซนติเมตร กาบล่างมีลักษณะแคบ ความยาว 1.8 เซนติเมตร มีหางยื่นยาวออกมา 2-8 เซนติเมตร มีฟันเลื่อยเล็ก ๆ ที่สันตรงกลางกาบล่าง กาบบนอยู่ทางด้านบนของกาบล่าง ดอกย่อยมีเกสรเพศผู้ 3 อัน เกสรเพศเมีย 1 อัน ยอดเกสรเพศเมียมีลักษณะเป็นพู่แยกออกเป็นสองแฉก ผลแบบธัญพืชรูปขอบขนาน ยาว 5-9 มิลลิเมตร สีน้ำตาลอ่อน ผิวเรียบ มีร่องแคบๆ ปลายแหลม (Darwinkel, 1996)

ภาพวาดแสดงส่วนต่างๆ ของข้าวไรน์
1. ลำต้นและราก 2. ดอกย่อย
3. ดอกสมบูรณ์เพศที่นำกาบหุมออก
4. ดอกไม่สมบูรณ์
5. เมล็ด (Darwinkel, 1996)

การจำแนกข้าวไรน์
จำแนกตามฤดูกาลปลูก
  • ข้าวไรน์สำหรับปลูกฤดูใบไม้ผลิ(spring rye)
  • ข้าวไรน์สำหรับปลูกฤดูหนาว(winter rye)
จำแนกตามการใช้ประโยชน์
  • ข้าวไรน์ขนมปัง (Rye bread) เพื่อเป็นอาหารมนุษย์
  • ข้าวไรน์ผลิตเมล็ดทำอาหารเสริมของมนุษย์หรือเลี้ยงสัตว์ (Rye Millet)
การใช้ประโยชน์ 
นำเมล็ดข้าวมาบดเป็นแป้งสำหรับทำขนมปัง ขนมเค้ก หรือผสมกับแป้งสาลีในการทำขนมปังหรือขนมเค้ก ซึ่งเป็นที่นิยมมากในทวีปยุโรปหลายประเทศ ได้แก่ สวีเดน โปแลนด์ เยอรมัน และรัสเซีย เมื่อนำเมล็ดไปเพาะให้งอกจะได้ข้าวมอลต์ซึ่งนำไปใช้ในการผลิตเบียร์

เมล็ดข้าวไรน์ถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเลี้ยงสัตว์ ฟางข้าวและลำต้นสดก็ถูกนำมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ มีการปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวต้นอ่อนสำหรับเลี้ยงสัตว์แล้วไถกลบส่วนที่เหลือลงดินเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสด

นอกจากนั้นฟางข้าวยังถูกนำมาใช้ปูพื้นคอกสัตว์ คลุมแปลงปลูกพืช ผลิตกระดาษ กระดานอัด และใช้เป็นเชื้อเพลิง (Darwinkel, 1996; Levetin and McMahon, 2003)

คุณค่าทางอาหาร 
ส่วนของเมล็ดที่รับประทานได้หนัก 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำ 14 กรัม โปรตีน 11 กรัม ไขมัน 2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 69 กรัม เส้นใย 2 กรัม และเถ้า 2 กรัม มีโปรตีนชนิดไลซีน (lysine) และทรีโอนีน (threonine) ค่อนข้างสูง แต่มีปริมาณกลูเท็น (gluten) ต่ำ ทำให้ขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวไรน์มีเนื้อแน่นแข็ง เมล็ดจำนวน 1,000 เมล็ด หนัก 30-40 กรัม (Darwinkel, 1996)

การขยายพันธุ์ 
ข้าวไรน์ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดลงในแปลงปลูก โดยการหยอดด้วยมือคน หรือเครื่องจักรลงในแถวที่เป็นร่องลึก 2-4 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถว 10-25 เซนติเมตร(Darwinkel, 1996)

นิเวศวิทยา 
ข้าวไรน์ชนิดวินเทอร์ไรน์ต้องการอุณหภูมิ 4-5 องศาเซลเซียส ภายใน 4 วัน สำหรับการงอกของต้นกล้า และต้องการอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาวซึ่งมีน้ำแข็งปกคลุมลำต้นสำหรับกระตุ้นการออกดอก (vernalization) ซึ่งทนอุณหภูมิต่ำได้ถึง –25 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น 10-15 องศาเซลเซียส จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของลำต้นและการแตกกอ ซึ่งอุณหภูมิที่ใช้ในการเจริญเติบโตนี้ไม่ควรสูงเกิน 20 องศาเซลเซียส ข้าวไรน์สามารถทนทานต่อการขาดน้ำได้ขณะออกดอกควรได้รับสภาพอากาศแห้งและมีแสงแดดจัด ถ้าได้รับฝนที่ตกต่อเนื่องกันหลายวัน ความชื้นในอากาศสูง และอุณหภูมิต่ำในช่วงที่มีมีการถ่ายเรณู จะทำให้ไม่มีการติดเมล็ดเกิดขึ้น การถ่ายเรณูอาศัยลมเป็นพาหะ และวินเทอร์ไรน์เป็นพืชวันยาวต้องการความยาวช่วงวัน 14-20 ชั่วโมงสำหรับการออกดอก พื้นที่ซึ่งมีการปลูกวินเทอร์ไรน์อยู่ในเขตเส้นรุ้ง 40-65 องศาเหนือ

สปริงไรน์มีการเจริญเติบโตในเขตพื้นที่สูงของเขตอากาศร้อนชื้นและเขตกึ่งร้อนชื้นเป็นพืชที่ไม่ต้องการสภาพอุณหภูมิต่ำกระตุ้นการออกดอก และความยาวช่วงวัน 12-13 ชั่วโมง สำหรับการออกดอกและติดเมล็ด

ข้าวไรน์เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ค่า pH 5-7.5 ถ้าดินมีความอุดมสมบูรณ์สูงจะทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น (Darwinkel, 1996)

การเก็บเกี่ยว 
การเก็บเกี่ยวจะกระทำเมื่อใบเหี่ยวแห้ง ลำต้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองปนน้ำตาลและความชื้นของเมล็ดลดต่ำลงกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าต้องการให้คุณค่าทางอาหารในเมล็ดยังคงอยู่ในสภาพดี อาจเก็บเกี่ยวเมื่อเมล็ดมีความชื้น 18-20 เปอร์เซ็นต์ แล้วจึงนำเมล็ดมาลดความชื้นลงให้ต่ำกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ โดยการตากเมล็ดในแปลงปลูกหรือเข้าเครื่องอบลดความชื้นเมล็ด ก่อนเก็บรักษา ซึ่งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาเมล็ดได้เป็นเวลานาน

ในการเก็บเกี่ยวนิยมใช้การเกี่ยวด้วยมือหรือเครื่องจักร จากนั้นทำการนวดเมล็ดลดความชื้นของเมล็ด และบรรจุในภาชนะก่อนทำการเก็บรักษา(Darwinkel, 1996)

การส่งออก ในประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวไรน์ได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นการปลูกตามสถานีทดลอง จึงไม่มีการผลิตเพื่อการส่งออก แต่มีการนำเข้าเพื่อนำมาใช้ผลิตอาหารเสริม และเบเกอรี่ชนิดต่างๆ

หาดทรายสีดำ จากทั่วโลก

หาดทรายสีดำ จากทั่วโลก
อันดับที่ 10 Vik Beach, Iceland
Vik Beach อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ หาดทรายสีดำ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991 เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ดังนั้นควรจะตรวจสอบให้ดีว่าคุณจะไม่ไปที่นั่นในวันที่มีฝนตก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชายหาดที่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ที่น่าไปชม
Black Sand Beach, Prince William Sound, Alaska 10 อันดับ หาดทรายสีดำ จากทั่วโลก
อันดับที่ 9 Black Sand Beach, Prince William Sound, Alaska 
Black Sand Beach หาดทรายสีดำ ซึ่งอยู่ห่าง Anchorage 60 ไมล์ คุณจะได้พบกับการขึ้นลงของธารน้ำแข็ง น้ำตก ภูเขาเขียว และสัตว์ป่าที่ไม่สามารถหาชมได้ในสวนสัตว์ ถ้าคุณมองลงไปในน้ำหรือรอบๆ ตัวคุณจะมองเห็นเงาสะท้อนของน้ำและน้ำแข็งสีฟ้าที่อยู่ลึกลงไปเป็นหมื่นๆ ฟุต ที่ชาดหาดนี้มีกิจกรรมที่นิยมที่สุดคือพายเรือคายัค แต่จำไว้ว่าคุณอยู่ในอลาสก้า ไม่ใช่ชายหาดที่จะออกไปเล่นกีฬาด้วยบิกินี่ ควรจะนำเสื้อกันหนาวไปดีกว่า
Pololu Valley Beach, Hawaii 10 อันดับ หาดทรายสีดำ จากทั่วโลก
อันดับที่ 8 Pololu Valley Beach, Hawaii
 Pololu Valley Beach หาดทรายสีดำ อยู่สุดทางหลวงหมายเลข 270ที่เกาะนี้คุณสามารถชมวิวภูเขา Kohala ได้อย่างยอดเยี่ยมพอๆ กับชายฝั่ง หนึ่งในเกาะที่เล็กที่สุดในฮาวาย และต้องปีนเขา 400 ฟุต เพื่อมายังชายหาด ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่เกาะนี้ไม่แนะนำกิจกรรมอย่างดำน้ำหรือว่ายน้ำเพราะกระแสน้ำแรงและคลื่นสูง อันตราย ถ้าคุณได้มาที่ Pololu Valley Beach นี้ให้ปีนเขาและชมวิวดีกว่า
หาดทรายสีดำ
อันดับที่ 7 Kehena Beach, Hawaii
ถ้าคุณวางแผนจะไปพักผ่อน ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะถ้าคุณมีเด็กเล็กๆ หาดทรายสีดำ นี้ได้ชื่อว่าชายหาดเปลือยแม้ว่าจะผิดกฎหมายฮาวาย ที่ Kehena คุณจะไม่โดดเดี่ยว คุณจะได้พบกับปลาวาฬด้วยเหตุนี้ทำให้ที่นี่มีอีกชื่อหนึ่งว่าหาดปลาวาฬ คุณสามารถว่ายน้ำกับปลาวาฬถ้ากระแสน้ำไม่เลวร้ายนัก คนส่วนใหญ่ที่ไปที่ Kehena เพื่อนั่งเล่นที่ชายหาด เพลิดเพลินกับอากาศดีๆ และน้ำ
Kaimu Beach, Hawaii
อันดับที่ 6 Kaimu Beach, Hawaii
Kaimu Beach แม้ว่าจะอันตรายแต่ก็เป็น หาดทรายสีดำ ที่สวยงามที่ต้องไปชม ในช่วงปี 1990 ชาดหาดถูกปกคลุมไปด้วยลาวา ปัจจุบันจึงมีการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เพื่อนำชีวิตกลับคืนมาสู่ชายหาด ทั้งเฟิร์น ปาล์ม และต้นไม้อื่นๆ ที่สามารถพบเห็นตามรอยแตกของลาวา ขอแนะนำว่าคุณไม่ควรว่ายน้ำที่ชายหาดนี้เพราะกระแสน้ำแรงมาก แต่ถ้ายืนอยู่ในน้ำไม่สูงนัก ก็ไม่อันตรายมาก
Black Sand Beach, Lost coast, California
อันดับที่ 5 Black Sand Beach, Lost coast, California
Black Sand Beach ชายหาดของแคลิฟอร์เนียความยาว 80 ไมล์ ที่หายสาบสูญ หนึ่งในชายหาดที่คนไปน้อยที่สุด ถ้าคุณมีความกล้าหาญและทักษะที่เชี่ยวชาญ คุณจะพิชิตยอดที่สูงที่สุดของที่นี่ที่ความสูงมากกว่า 2000 ฟุต จุดที่สูงที่สุดคือ King’s Peak ที่ความสูง 4,087 ฟุต และได้ชมชายหาดที่ได้ชื่อว่า Black Sand Beach แม้ว่าจะว่ายน้ำที่ชาดหาดนี้ได้แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ จะปีนเขาและขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปที่นี่มากกว่า
Oneuli Beach, Maui
อันดับที่ 4 Oneuli Beach, Maui
Oneuli Beach หนึ่งในชายหาดที่คุณอาจไม่พบกับฝูงชนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามคุณสามารถมีช่วงเวลาดีๆ ที่ หาดทรายสีดำ แห่งนี้ น้ำที่กำลังดี ชายหาดที่สามารถตั้งแคมป์ได้ ถ้าวางแผนจะมาที่นี่สักสองสามชั่วโมงคุณสามารถว่ายน้ำ ปีนเขา ตกปลา และพายเรือ ถ้าคุณชอบอยู่กับธรรมชาติ คุณน่าจะชอบปีนเขา และสามารถดำน้ำทั้ง snorkeling และ scuba diving และพายเรือคายัค ทรายจะร้อนมากเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น อย่าลืมเอารองเท้ามาด้วย
Honokalani Black Sand Beach, Maui
อันดับที่ 3 Honokalani Black Sand Beach, Maui
Honokalani Black Sand Beach ตั้งอยู่ใน Wainapanapa State Park หาดทรายสีดำ ที่เต็มไปด้วยกรวดเล็กๆ จากลาวา รอบๆ คุณจะได้พบกับถ้ำ ปะการังลาวา แท่งลาวา จากชายหาดคุณสามารถเดินไปยัง King’s Highway ซึ่งเป็นทางจากฝั่งเลียบชายหาดไปยัง Hana ซึ่งคุณสามารถดำน้ำและ snorkeling ได้ที่หาดนี้
Waianapanapa Black Sand Beach, Maui
อันดับที่ 2 Waianapanapa Black Sand Beach, Maui
Waianapanapa Beach หาดทรายสีดำ ที่เกิดจากกระแสน้ำกัดเซาะหินภูเขาไฟ ที่ชายหาดนี้คุณจะได้พบกับวิวที่สวยงามที่สุดที่คุณไม่เคยเห็น คุณสามารถชมและเข้าไปในถ้ำ สะพานที่เกิดจากหินธรรมชาติ และ King’s Highway เส้นเก่า ที่เคยใช้เป็นถนนล้อมรอบเกาะ คุณสามารถพาครอบครัวมาที่นี่และแน่ในว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน เพราะในช่วงฤดูหนาวคลื่นจะแรงและสูงมาก ไม่สามารถว่ายน้ำ เล่นกระดานโต้คลื่น และดำน้ำเพราะอันตรายมาก
Punaluu Beach, Hawaii
อันดับที่ 1 Punaluu Beach, Hawaii
อันดับสูงที่สุดในโลกของ หาดทรายสีดำ คือ Punaluu Beach ตั้งอยู่บน Big Island ของฮาวาย ชายหาดที่ล้อมรอบด้วยทรายสีดำที่เกิดจากลาวาที่เย็นตัวลงจากภูเขาไฟในมหาสมุทร ที่หาดนี้คุณสามารถพบเต่า Hawksbill หรือ Green sea turtles แม้ว่าทรายสีดำที่หาดนี้จะสวยงาม แต่การนำทรายออกมาก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

                           ขนมมงคล 9 อย่าง 
   "ขนมไทย" เอกลักษณ์ของความเป็นไทย นอกจากจะมีความงดงามวิจิตร ละเอียดอ่อน พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการทำแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อย หอมกลิ่นพืชพรรณจากธรรมชาติ และกลิ่นอบร่ำควันเทียน อีกทั้งขนมแต่ละชนิดยังมีชื่อเรียกที่บ่งบอกถึงคุณค่า และแฝงไปด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล
คำว่า "มงคล" หมายถึง สิ่งที่นำมาซึ่งความดีงามและความเจริญรุ่งเรือง ส่วน "ขนมมงคล" หมายถึง ขนมไทยที่นำไปใช้ประกอบเครื่องคาวหวาน ถวายพระ เลี้ยงแขก ในงานพิธีมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานบวช หรืองานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น โดยจะต้องเลือกใช้เฉพาะขนมไทยที่มีชื่อไพเราะและเป็นสิริมงคล ดังเช่น "ขนมมงคล 9 อย่าง" ที่จะกล่าวต่อไป

ทองหยิบ ทองหยิบ
   เป็น ขนมมงคล ชนิดหนึ่ง มี ลักษณะ งดงามคล้าย ดอกไม้สีทอง ต้องใช้
ความสามารถและ ความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ใน การ ประดิษฐ์ประดอย จับกลีบ
ให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อ ขนมทองหยิบ เป็นชื่อ สิริมงคล
เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบ พิธีมงคล ต่างๆ หรือให้เป็น ของขวัญ แก่ใครแล้ว จะทำให้เกิด
ความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับ การงาน สิ่งใดก็จะ ร่ำรวย มีเงินมีทอง สมดังชื่อ "ทองห
ยิบ"
ทองหยอด
 
ทองหยอด
   ใช้ประกอบใน พิธีมงคล ทั้งหลาย หรือมอบเป็น ของขวัญ ใน โอกาสสำคัญ ๆ แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก
หรือ ญาติสนิทมิตรสหาย แทน คำอวยพร ให้ ร่ำรวยมีเงินมีทอง ใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมดสิ้น ประดุจให้ ทองคำ แก่กัน
ฝอยทอง
 ฝอยทอง
    เป็น ขนม ใน ตระกูลทอง ที่มีลักษณะเป็น เส้น นิยมใช้กันในง านมงคลสมรส ถือเคล็ด กันว่าห้ามตัดขนม ให้สั้น
ต้องปล่อยให้เป็น เส้นยาวๆ เพื่อที่ คู่บ่าวสาว จะได้ ครองชีวิตคู่ และ รัก กันได้อย่างยืนยาวตลอดไป
ขนมชั้น
 
ขนมชั้น
   เป็น ขนมไทย ที่ถือเป็น ขนมมงคล และจะต้อง หยอด ขนมชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะ คนไทย มีความเชื่อ
ว่าเลข 9 เป็น เลขสิริมงคล หมายถึง ความเจริญก้าวหน้า และ ขนมชั้น ก็หมายถึงการได้
เลื่อนชั้น เลื่อน ยศถาบรรดาศักดิ์ ให้สูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป
ทองเอก
 ขนมทองเอก 
   เป็น ขนม ในตระกูล ทอง อีกชนิดหนึ่งที่ต้องใช้ความ พิถีพิถัน
เ ป็นอย่างยิ่งในทุก ขั้นตอน การทำ มีลักษณะที่ สง่างาม โดดเด่น
กว่า ขนม ตระกูลทอง ชนิดอื่นๆ ตรงที่มี ทองคำเปลว ติดไว้ที่ด้านบนของ
ขนม คำว่า "เอก" หมายความถึง การเป็นที่หนึ่ง การใช้ ขนมทองเอก ประกอบ
พิธีมงคล สำคัญต่างๆ หรือใช้มอบเป็น ของขวัญ ใน งานฉลอง การเลื่อนยศ
เลื่อนตำแหน่ง จึง เปรียบเสมือน คำอวยพร ให้ เป็นที่หนึ่ง ด้วย
เม็ดขนุน
 ขนมเม็ดขนุน
     เป็นหนึ่งใน ขนม ตระกูลทองเช่นกัน มี สีเหลืองทอง รูปร่างลักษณะ
คล้ายกับ เม็ดขนุน ข้างในมีไส้ทำด้วย ถั่วเขียวบด มี ความเชื่อ
กันว่า ชื่อของ ขนมเม็ดขนุน จะเป็น สิริมงคล ช่วยให้มีคนสนับสนุน หนุนเนื่อง
ในการดำเนินชีวิตและในหน้าที่การงานหรือ กิจการต่างๆ ที่ได้กระทำอยู่
จ่ามงกุฎ
 
ขนมจ่ามงกุฎ
    เป็น ขนม ที่ทำยากมี ขั้นตอนใน การทำ สลับซับซ้อน นิยมทำกันเพื่อ
ใช้ประกอบ พิธีการ ที่สำคัญจริงๆ คำว่า "จ่ามงกุฎ" หมายถึง การเป็น หัวหน้าสูงสุด
แสดงถึงความมี เกียรติยศสูงส่ง นิยมใช้เป็น ของขวัญ ใน งานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง
ถือเป็น การแสดงความยินดี และ อวยพร ให้มีความก้าวหน้า ในหน้าที่การ งาน ยิ่งๆ ขึ้นไป

ถ้วยฟู
 ขนมถ้วยฟู
    ให้ ความหมาย อันเป็น สิริมงคล หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู
นิยมใช้ประกอบใน พิธีมงคล ต่างๆ ทุกงาน เคล็ดลับของการทำ ขนมถ้วย ให้มี
กลิ่นหอม น่ารับประทานนั้น คือการใช้ น้ำดอกไม้ สดเป็น ส่วนผสม และการ
อบร่ำ ด้วย ดอกมะลิ สดในขั้นตอนสุดท้าย
ของ การทำ
เสน่ห์จันทร์
 
ขนมเสน่ห์จันทน์
    "จันทน์" เป็น ต้นไม้ชนิดหนึ่ง มี ผลสุก สีเหลือง เปล่งปลั่ง
ทั้งสวยงามและมี กลิ่นหอม ชวนให้หลงใหล คน โบราณ จึงนำ ความมีเสน่ห์
ของ ผลจันทน์ มาประยุกต์ทำเป็น ขนม และได้นำ "ผลจันทน์ป่น" มาเป็นส่วนผสม
ทำให้มี กลิ่นหอม เหมือน ผลจันทน์ ให้ชื่อว่า "ขนมเสน่ห์จันทน์" โดยเชื่อว่า
คำว่า เสน่ห์จันทน์ เป็นคำที่มี สิริมงคล จะทำให้มี เสน่ห์ คนรักคนหลง
ดังเสน่ห์ ของ ผลจันทน์ ขนมเสน่ห์จันทน์ จึงถูกนำมาใช้ประกอบในงาน พิธีมงคลสมรส